ชื่นชม 2 หนูน้อย เก็บทองร่วม 2 แสนบาท ตามหาเจ้าของ ไม่คิดเก็บไว้เอง

ความดีที่ส่องสว่าง 2 หนูน้อยเก็บทองร่วม 2 แสน ส่งคืนไม่หวังผล

ในวันที่ 13 มีนาคม 2567 ณ สภ.เมืองอุดรธานี ได้เกิดเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องยิ้มอย่างอบอุ่นและชื่นชม ด้วยการกระทำของ 2 หนูน้อย ด.ญ.ณัชชาภัทร หรือน้องณัชชา อายุ 8 ปี นักเรียนโรงเรียนเซนต์แมรี่ และ ด.ญ.กัลยกร หรือน้องพรีม อายุ 9 ปี นักเรียนโรงเรียนดอนบอสโกวิทยา ที่ได้ทำการเก็บทองรูปพรรณมูลค่าร่วม 200,000 บาทที่พวกเขาพบในสวนสาธารณะหนองสิม แล้วได้ทำการตามหาเจ้าของอย่างมุ่งมั่นโดยไม่คิดจะเก็บไว้เป็นของตนเอง

เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 15.30 น. นายจิรวัฒน์ ไชยวัฒน์ธนภัทร พ่อของน้องณัฐชา ได้พาลูกสาวและน้องพรีมเพื่อนลูกสาวไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหนองสิม ระหว่างนั้นเด็กๆ ได้พบซองทองตกอยู่บนพื้น ภายในมีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาทพร้อมจี้หนัก 1 สลึง และแหวนทอง 1 วง หนัก 2 สลึง รวมมูลค่าประมาณ 200,000 บาท

แทนที่จะเก็บไว้เป็นของตนเอง น้องณัชชาและน้องพรีมได้ตัดสินใจที่จะนำทองคำทั้งหมดไปแจ้งความกับตำรวจ เพื่อทำการตามหาเจ้าของจริง เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความซื่อสัตย์ของเด็กๆ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้คนในสังคม

เพื่อตอบแทนความดี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสานพันธ์ รองผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้มอบเงินตอบแทนความดีให้กับเด็กทั้งสองคนคนละ 1,000 บาท และเตรียมทำใบประกาศเกียรติคุณให้ด้วย การกระทำนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างค่านิยมที่ดีในสังคม แต่ยังเป็นการยืนยันว่าความดีนั้นยังคงถูกประเมินค่าและได้รับการยอมรับ

เรื่องราวของ 2 หนูน้อยเก็บทองร่วม 2 แสนบาทและตามหาเจ้าของโดยไม่หวังผลส่วนตัว ไม่เพียงแต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความดีที่ไม่หวังผลตอบแทน สังคมต้องการเรื่องราวแบบนี้เพื่อเตือนใจและส่งเสริมค่านิยมที่ดีในหมู่เรา ให้เราทุกคนไม่ลืมที่จะกระทำความดี แม้ว่าบางครั้งเราอาจไม่ได้รับการยอมรับหรือเห็นผลทันทีก็ตาม เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่าความดีคือคุณค่าที่แท้จริงและไม่สามารถวัดได้ด้วยวัตถุหรือมูลค่าทางการเงิน

ความจริงใจและความซื่อสัตย์ของน้องณัชชาและน้องพรีมได้ปลูกฝังความหวังในหัวใจของผู้คนมากมาย และเป็นการยืนยันว่าคุณค่าที่แท้จริงของสังคมไม่ได้อยู่ที่วัตถุหรือมูลค่า แต่อยู่ที่จิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ ความพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน

เรื่องราวนี้ยังเป็นการเตือนใจให้เราทุกคนระลึกถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์และการให้ที่ไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน ให้เราไม่ลืมที่จะแบ่งปันและช่วยเหลือกัน แม้ในยามที่เราอาจไม่ได้รับอะไรกลับคืนมาก็ตาม

การกระทำของเด็กๆ ไม่เพียงแต่ได้สร้างความประทับใจให้กับครอบครัวและชุมชนของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับสังคมในวงกว้าง ทำให้เราเห็นว่าแม้แต่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

ในท้ายที่สุด เรื่องราวของน้องณัชชาและน้องพรีมเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำและเป็นบทเรียนอันมีค่าเกี่ยวกับความดี ความซื่อสัตย์ และความเสียสละ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่ควรถูกปลูกฝังและส่งเสริมในทุกๆ สังคม เพื่อสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับเราทุกคนในวันข้างหน้า